


ปัจจุบัน “ข้าวกล้องงอก” มีจำหน่ายที่สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยแพ็คเก็จที่จำน่ายเป็นถุง ปริมาณ 4.5 กรัม (เกือบครึ่งกิโลกรัม) ราคา 75.- คำนวนแล้วจะตกอยู่ที่กิโลกรัมละ 167.- ซึ่งจะมีราคาจะแพงกว่าข้าวกล้องทั่วไปประมาณกว่า 3 เท่าตัว แต่กว่าเขาจะผลิตข้าวกล้องงอกพร้อมหุงรับประทานได้ ต้องผ่านหลายขึ้นตอน เริ่มตั้งแต่คัดข้าวกล้องพันธุ์ดีที่ให้สาร GABA มากที่สุด คือข้าวหอมมะลิ 105 และต้องเลือกข้าวกล้องที่ผ่านการกระเทาะเปลือกไม่เกิน 2 สัปดาห์ มาแช่น้ำให้เกิดกระบวนการงอก ต้องมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำเป็นระยะ ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการบูดเน่า เมื่อเกิดการงอกแล้วจึงใช้ความร้อนเพื่อให้หยุดการงอก จากนั้นมาทำให้แห้งเพื่อลดความชื้น แล้วนำมาแพ็คเป็นถุงออกจำหน่าย เพื่ออำนวยความสะดวกให้เรานำไปหุงรับประทานได้ทันที แต่ข้าวงอกที่จำมาจำหน่ายนี้ จะมีส่วนงอกเป็นตุ่มไม่ยาวเหมือนตามภาพของเรา ดังนั้นอาจมองเห็นส่วนงอกไม่ชัดเจน เข้าใจว่าการอบแห้งอาจทำให้มักหักได้ เพราะค่อนข้างเล็กและเปราะบางค่ะ



เรา นำข้าวทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ ข้าวกล้องหอมมะลินิลดำ ข้าวมันปูซ้อมมือ และข้าวกล้องโอ๊ด มาใส่ชามอย่างละนิดใส่น้ำแล้วเททิ้ง จากนั้นใส่น้ำอีกครั้งให้ท่วมเมล็ดข้าว แช่ค้างคืนไว้ในอุณหภูมิของห้อง มือใหม่หัดเพาะแบบเราพบว่าข้าวโอ๊ดมีการบูดเน่ามากที่สุด ส่วนข้าวหอมมะลินิลดำตามมาเป็นอันดับที่ 2 สำหรับข้าวมันปูซ้อมมือฉลุยค่ะพี่น้อง ไม่พบการบูดเน่าเลย เราเอาไปเพาะที่ออฟฟิต ระหว่างวันเราจะเดินออกมาเปลี่ยนน้ำบ่อย ๆ ยิ่งถ้าเห็นเริ่มมีฟองต้องรีบเปลี่ยนเลย ซึ่งครั้งแรกของการเพาะเรายังเปลี่ยนน้ำได้ไม่ดีนัก ในการเปลี่ยนน้ำแต่ละครั้งจะเทน้ำเก่าทิ้งไป ใส่น้ำใหม่แล้วเขย่าเล็กน้อยเททิ้งอีกรอบ ถ้าน้ำยังมีปัญหาก้อจะใส่น้ำแล้วเททิ้งอีก จากนั้นใส่น้ำให้ท่วมเมล็ดข้าวตามเดิมแล้วแช่ทิ้งไว้ต่อไป วันที่สองพบการบูดเน่าของข้าวโอ๊ดรุนแรงมาก จึงต้องโหวตข้าวโอ๊ดทิ้งไปเป็นชนิดแรก คงเหลือข้าวหอมมะลินิลดำที่ดูเหมือนจะมีกลิ่นบูดเล็กน้อย จึงต้องทำการเปลี่ยนน้ำบ่อยขึ้น ส่วนข้าวมันปูซ้อมมือปกติดี เราจึงตัดสินใจเอาข้าวแช่น้ำทั้งสองชนิดกลับไปนอนค้างคืนที่บ้านด้วย กว่าจะเข้านอนก้อเปลี่ยนถ่ายน้ำอีกหลายรอบ หลังจาก 2 คืนผ่านไปพบการงอกที่ข้าวมันปูซ้อมมือ สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าชัดเจน และไม่มีกลิ่นบูดเน่าเลย เมื่อดมดูจะได้กลิ่นคล้ายถั่วงอกสด แสดงว่าน่าจะผ่านนะคะ ส่วนข้าวมะลิหอมนิลดำมีกลิ่นบูดเน่าเล็กน้อย แต่เรายังคงเพาะต่อไปเป็นคืนที่สาม พบว่าข้าวหอมมะลินิลดำไม่เกิดการงอก ยังคงมีกลิ่นบูดอยู่ เราจึงต้องทำการโหวตออกเป็นลำดับที่สอง ดังนั้นคงเหลือแต่ข้าวมันปูซ้อมมือที่เข้าวินชนะการงอกเพียงชนิดเดียวเท่า นั้น สรุปก้อคือเราประสบผลสำเร็จในการเพาะการงอกจากเมล็ดข้าวมันปูซ้อมมือ ภาวะการไม่งอกของข้าวมะลินิลดำและข้าวโอ๊ดซ้อมมืออาจมาจากหลายสาเหตุ แต่เราไม่ใช่นักวิชาการจึงไม่ขอสรุปนะคะ เข้าใจว่าถ้าเราสามารถควบคุมการเปลี่ยนน้ำได้ดีจะไม่เกิดการบูดเน่า แต่กว่าจะรู้หลักในการเปลี่ยนถ่ายน้ำเพื่อยับยั้งการบูดเน่าได้ดีและแม่นยำ คงต้องใช้ประสบการณ์ในการเพาะอีกหลายครั้ง จากภาพ เป็นการแช่ที่นานมากกว่า 72 ชั่วโมง ซึ่งการแช่ให้งอกเพื่อรับประทาน ทางทีมวิจัยระบุเวลาในการแช่มากที่สุดคือ 72 ชั่วโมง คือแค่ให้เป็นตุ่มเล็ก ๆ แต่ชุดนี้เป็นการแช่เพื่อทดลอง จึงแช่ต่อไปเรื่อย ๆ พบว่าส่วนที่งอกขึ้นมายังสามารถงอกได้ต่อไปจนย๊าวยาวค่ะ





** ลักษณะการงอกของข้าวที่มีคุณค่าทางโภชนาการคือ จะมีการงอกแค่ตุ่มเล็ก ๆ เท่านั้น ไม่ใช่งอกยาวเฟื้อยเหมือนภาพส่วนใหญ่ของเราที่ถ่ายแล้วนำมาลงไว้ในเบรคนี้ แต่ที่นำยาว ๆ มาลง เพราะเราแช่เกินกว่าเวลาที่กำหนดมากเกินไป ทำให้เรามองว่าถ่ายออกมาแล้วอาร์ตดี จึงนำมาประกอบไว้ดูเล่น ซึ่งไฮไลท์ที่สำคัญคือแช่แล้วให้งอกแค่เป็นตุ่มเล็ก ๆ เหมือนเมล็ดทางด้านขวามือของภาพล่างนี้เท่านั้นนะคะ


ความ จริงมีข้าวกล้องมากมายที่ขายอยู่ในท้องตลาด สมัยก่อนชาวบ้านจะใช้วิธีตำด้วยมือเพื่อกระเทาะเปลือก จึงเรียกว่าข้าวซ้อมมือ สมัยใหม่ใช้เครื่องจักรทำ จึงเรียกว่าข้าวกล้อง ปัจจุบันข้าวทุกชนิดจะผ่านขั้นตอนการขัดสีมาทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าขัดมากหรือขัดน้อย ถ้าขัดจนขาวใสจะกลายเป็นข้าวขาว ซึ่งเป็นข้าวพิมพ์นิยมสำหรับคนทั่วโลก แต่ถ้าขัดบ้างเล็กน้อยยังเห็นเมล็ดข้าวเป็นสีน้ำตาลอยู่ หรือขัดมากขึ้นอีกนิดหนึ่ง แต่เมล็ดข้าวยังคงเป็นสีน้ำตาลอยู่ จะเรียกกลุ่มนี้ว่าข้าวกล้องทั้งหมด ซึ่งมันก้อมาจากข้าวในพันธุ์กลุ่มเดียวกัน อยู่ที่ว่าจะมันเป็นพันธุ์อะไรก้อเท่านั้นเอง เช่น ข้าวหอมมะลิ ก้ออาจมีทั้งข้าวขาวและข้าวกล้อง ฯลฯ ยังมีข้าวอีกกลุ่มหนึ่งที่มีสีเข้ม เช่น ข้าวหอมนิลดำ มีสีน้ำตาลมืดจนเกือบเป็นสีดำ หรือข้าวมันปู จะมีความมันและสีแดงเข้ม ข้าวกลุ่มนี้จะมีสีของเยื่อหุ้มเมล็ด (รำ) ที่มีสีเข้มตามไปด้วย นอกจากนี้ยังมีข้าวบาเลย์ ข้าวโอ๊ด ฯลฯ ซึ่งข้าวทุกชนิดถ้าผ่านการขัดสีแต่เพียงน้อยที่เรียกว่าข้าวกล้องนี้ ถือมีประโยชน์ทั้งนั้น ใครชอบแบบไหนก้อเลือกมารับประทานได้ตามสะดวก เพียงแค่ใช้ข้าวที่มีอยู่มาทำให้เกิดการงอก แค่นี้จะได้สารเพิ่มขึ้นอีกมากมาย กำไรเพื่อสุขภาพล้วน ๆ โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม กรณีที่ซื้อข้าวกล้องมาแช่น้ำแล้วไม่เกิดการงอก ก้อไม่ต้องซีเรียส เพราะยังสามารถนำมาหุงรับประทานในรูปแบบไม่งอกได้ ขอให้เพื่อนที่อินเทรนกันทุกคน สนุกกับการเพาะข้าวกล้องให้เกิดเป็น "ข้าวกล้องงอก” เพื่อสุขภาพที่อ่อนเยาว์กันทุกคนนะคะ

1 ความคิดเห็น:
ดีดีครับ
แสดงความคิดเห็น