วันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2552

แห่ชมทำน้ำข้าวกล้องงอกสูตรขึ้นโต๊ะเสวย

แห่ชมทำน้ำข้าวกล้องงอกสูตรขึ้นโต๊ะเสวย


เปิดเมนูเด็ดอีกสูตร'บ๊ะจ่างข้าวกล้องงอก'สุดยอดคุณค่าอาหาร

ประชาชนแห่ชมสาธิตการทำน้ำข้าวกล้องงอก สูตรขึ้นโต๊ะเสวยในหลวง มืดฟ้ามัวดิน เจ้าหน้าที่รับไม่ไหว ทยอยให้ชมรอบละ 50 คน ตั้งแต่เช้าจนเย็นก็ยังไม่หมด โวยต้องหาสถานที่จัดใหญ่กว่านี้ ด้าน อธิบดีกราบขอโทษ เพราะไม่คิดว่าคนจะสนใจมากขนาดนี้ เร่งปั๊มสูตรทำลงวีซีดีแจกฟรี พร้อมลงเว็บไซต์ของกรม กับสนุกดอทคอม คาดต่อไปอาจเปิดอบรมใน ทุกจังหวัด ศูนย์วิจัยข้าวปทุมธานี เปิดอีกสูตร “บ๊ะจ่างข้าวกล้องงอกสูตรถวายสมเด็จพระเทพฯ” คุณค่าสารอาหารครบถ้วนเพราะเป็นอาหารคาวที่มีทั้งโปรตีน และพลังงานบวกกับสารกาบ้า และสารต้านอนุมูลอิสระ

ภายหลังมีประชาชนจำนวนมาก สอบถามเข้ามาที่สำนักงานหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เกี่ยวกับสูตรและวิธีทำ “น้ำข้าวกล้องงอก” ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีรับสั่งให้ศูนย์วิจัยข้าวปทุมธานี ปรุงเพื่อนำขึ้นโต๊ะเสวย ทูลเกล้าฯ ถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทุก ๆ 3 วัน เนื่องจากเป็นเครื่องดื่มที่มีสารอาหารครบถ้วน ทำให้กรมการข้าว ตอบสนองความต้องการของประชาชน เปิดโครงการสาธิตวิธีทำเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพดังกล่าว

โดยเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 7 ม.ค. ที่สำนักพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าว กรมการข้าว ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กรุงเทพมหานคร ได้จัดงานสาธิตวิธีการทำน้ำข้าวกล้องงอก และไอศกรีมข้าวกล้องงอก มีประชาชนสนใจเดินทางมาร่วมงานตลอดทั้งวันนับพันคน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุที่สนใจข่าวเรื่องน้ำข้าว กล้องงอก ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โปรดเสวย มีหลายสิบรายเดินทางมาจากต่างจังหวัด อาทิ จ.เชียงใหม่ พิษณุโลก ตรัง พัทลุง นนท บุรี สมุทรปราการ ฯลฯ ทำให้ประชาชนต้อง ยืนรอนานเพราะไม่มีเก้าอี้ หรือสถานที่จัดเตรียมไว้ให้นั่งรอการสาธิต ปัญหาเกิดจากสถานที่สาธิตรองรับได้แค่รอบละ 50 คน แต่มีประชาชนมากกว่านั้นหลายเท่า จึงต้องจัดการสาธิตตลอด ทั้งวันจนเจ้าหน้าที่ไม่ได้พักรับประทานอาหารกลางวัน เพราะประชาชน ผู้สูงวัยที่มาจากต่างจังหวัดต้องการมาชมแล้วเดินทางกลับบ้านได้ภายในวัน เดียว จนเกิดความโกลาหลต้องให้ทุกคน ที่มาลงทะเบียนไว้ก่อน เพื่อจะได้เพิ่มรอบการ อบรม โดยจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไป นอก จากนี้ผลิตภัณฑ์ข้าวกล้องที่มีวางจำหน่ายในสำนักผลิตภัณฑ์ข้าว ประชาชนแย่งกันซื้อจนหมดภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

ต่อมานายประเสริฐ โกศัลยวิตร อธิบดีกรมการข้าว ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว จึงลงมาขอโทษประชาชน โดยกล่าวว่าตนกราบขออภัยในเรื่องสถานที่ที่ไม่ได้เตรียมพร้อมมากกว่านี้ เพราะไม่คาดคิดว่าจะมีประชาชนมามากมายอย่างนี้ ซึ่งตนจะสั่งการให้ขยายการอบรมเพิ่มขึ้น เรื่อย ๆ โดยในวันที่ 16 ม.ค.นี้ จะจัดอบรมการทำน้ำข้าวกล้องงอก สูตรขึ้นโต๊ะเสวย ที่ศูนย์วิจัยข้าวปทุมธานี คลองหก จ.ปทุมธานี ซึ่งมีสถานที่กว้างขวาง สะดวก และเครื่องมือพร้อมกว่า จากนั้นในวันที่ 20 ม.ค.จะสาธิตอีกครั้งที่สำนักวิจัยข้าว ข้างปั๊มน้ำมันปตท.ภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน นอกจากนี้ยังจะเร่งนำข้อมูลต่าง ๆ เช่น สูตรน้ำข้าวกล้องงอก สูตรไอศกรีมข้าวกล้องงอก วิธีการเพาะข้าวกล้องให้งอก วิธีการดูข้าวกล้องใหม่อายุไม่เกิน 6 เดือนว่าสีสันเป็นอย่างไร ทำเป็นแผ่นวีซีดีแจก และลงในเว็บไซต์ของกรมการข้าวด้วย ภายในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตามได้มีประชาชนโทรศัพท์มาจากต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก บอกว่าไม่สะดวกที่จะเข้ามารับการอบรมในกรุงเทพฯ ตนจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยข้าว และศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว ทั่วประเทศ 50 ศูนย์ เข้ามาอบรม เพื่อนำไปอบรมต่อให้กับประชาชนในแต่ละจังหวัดที่ศูนย์ตั้งอยู่

“ผมกราบขออภัยจริง ๆ ที่วันนี้ประชา ชนมาแล้วไม่ได้รับความสะดวก และยังไม่ได้รับชมการสาธิต เพราะกรมการข้าวยังไม่มีตึกเป็นของตนเอง ต้องอาศัยกรมอื่นเป็นสถานที่ทำงาน เพราะเราเป็นกรมตั้งใหม่ ขอให้ประชาชนที่มาที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ลงทะเบียนไว้ทั้งหมด เพื่อทางกรมจะได้ทยอยจัดการอบรมให้ และจะหาสถานที่ให้กว้างขวางเพื่อประชาชนที่มาจะได้ลงมือทำเองได้ด้วย โดยเฉพาะที่ศูนย์วิจัยข้าวปทุม ธานี คลองหก จะมีอุปกรณ์พร้อมกว่านี้ และจัดการอบรมเพิ่มทันทีในวันที่ 20 ม.ค. เพราะประชาชนร้องขอมาเป็นจำนวนมาก หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โทรศัพท์ไปสอบถามที่ศูนย์ข้อมูลประชาสัมพันธ์ เรื่องน้ำข้าวกล้องงอก และไอศกรีมข้าวกล้องงอกโดยเฉพาะที่เบอร์โทร. 0-2577-1688-9” นายประเสริฐ เผย

อธิบดีกรมการข้าว กล่าวต่อว่าตนจะไปสั่งการทันทีให้นำสูตรต่าง ๆ ลงเว็บไซต์ของ กรมการข้าว และให้ลงในเว็บไซต์สนุกดอทคอม (www.sanook.com) ด้วย เพราะเห็นผู้สูงอายุต้องเดินทางมายืนรอตั้งแต่เช้าแล้วน่าเห็นใจมาก ทำให้เห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่ใส่ใจสุขภาพ และเห็นคุณค่าของข้าวไทย ของไทย ๆ ที่ทำง่าย ๆ และอยู่ในครัวของเราเองที่เรามองข้ามกันมา ตลอด ตอนนี้ทุกคนสนใจและต้องการที่จะรู้วิธีการบริโภคที่ถูกต้อง ได้คุณค่าสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายจริง ๆ ไม่ใช่เรื่องโฆษณาชวนเชื่อ หรือต้องไปเสียเงินแพงกินของนอก ประโยชน์ก็จะกลับมาสู่เกษตรกร สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้กับชาวนาได้อีกด้วย เพราะชาวนาผลิตข้าวกล้อง หรือข้าวกล้องงอกขายเองได้ เป็นการเพิ่มมูลค่าของข้าวไปในตัว โดยที่ชาวนา ไม่ต้องพึ่งพ่อค้าคนกลาง และโรงสี ที่ส่วน ใหญ่ชอบซื้อถูกแต่ขายแพง ทำให้ชาวนามีแต่ หนี้มาโดยตลอดเพราะชาวนาไม่มีตลาดเป็นของตนเอง

“ผมแนะนำให้เกษตรกรรวมตัวกันจัดตั้งเป็นกลุ่ม หรือเป็นชุมชน ซื้อเครื่องสีข้าวขนาดเล็ก ราคาตัวละไม่เกิน 3 หมื่นบาทจากกรมวิชาการเกษตร นำข้าวที่ปลูกเองมาสีเป็นข้าว กล้องขาย หรือทำเป็นข้าวกล้องงอก ก็เป็นการสร้างรายได้ที่เลี้ยงครอบครัวได้สบาย ๆ กลุ่มเกษตรกรใดสนใจให้ไปดูงานของกลุ่มเกษตรกรพัทลุง ทำข้าวกล้องงอกพันธุ์สังข์หยด จนทุกวันนี้ทำไม่ทันขายแล้ว เพราะกระแสความต้องการข้าวกล้องงอกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว” นายประเสริฐกล่าวตอนท้าย

ด้านประชาชนที่มาชมการสาธิต ต่างนั่งรอคิวด้วยความอดทน แม้จะรอตั้งแต่เช้าจนบ่ายก็ตาม อาทิ นายเทิด เกียรติสุขเกษม อดีตอัยการที่ปรึกษา อายุ 80 ปี และนางผลิดอก เกียรติ สุขเกษม ภรรยา อดีตพยาบาล อายุ 69 ปี โดยนายเทิด กล่าวว่าตนสนใจมากเพราะเห็นข่าวว่า ในหลวงและพระราชินี โปรดเสวย จึงมั่นใจว่า ต้องเป็นของดีมีคุณค่าแน่ จึงต้องการมาชมการสาธิตเพื่อนำกลับไปทำทานที่บ้าน เพราะตนชอบรับประทานข้าวกล้องมาตลอดเป็น 10 ปีแล้ว ทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่เป็นเหน็บชา ความจำดีมาก ผิวไม่แห้งด้วย จะเห็นได้จากพระราชินี โปรดเสวยข้าวกล้องพันธุ์สังข์หยด ทำให้พระองค์ยังคง ดูพระสิริโฉมงดงามตลอด

ด้านนางผลิดอก กล่าวว่าตนได้เห็นสรรพคุณของข้าวกล้องมาแล้วจากพี่สาวป่วยเป็นอัมพาต ปากเบี้ยวอยู่ 4-5 ปี หันมารับประทานข้าวกล้องทุกมื้อ พร้อมกับออกกำลังกายรำมวยไท้เก๊ก ขณะนี้อัมพาตหายแล้ว เดินสะดวก จึงต้องการมาดูการสาธิต และมาเอาสูตรทำน้ำข้าว กล้องงอก เพราะที่บ้านมีผู้สูงอายุหลายคน แม่ของตนอายุ 90 ปี ซึ่งจะต้องทำให้ทานทุกวัน อย่างไรก็ตามตนรอจนบ่ายแล้ว ก็ยังไม่ได้รับชมการสาธิต คาดว่าจะมาใหม่ในวันที่ 8 ม.ค.นี้ ตนขอตั้งข้อสังเกตว่ามหาวิทยาลัยเกษตรฯ มีสถาน ที่กว้างขวาง ทำไมไม่จัดหาสถานที่ให้ดีกว่านี้ หอประชุมก็ใหญ่โตน่าจะจัดให้ประชาชนเข้าไปใช้สถานที่และชมการสาธิตได้

สำหรับน้ำข้าวกล้องงอกสูตร “ขึ้นโต๊ะเสวย” วิธีทำจะเริ่มจากเมล็ดข้าวกล้องใหม่ อัตราส่วน 100 กรัม หรือ 1 ขีด ซาวน้ำล้างเอากรวดทรายออกก่อนหนึ่งครั้ง แล้วนำไปแช่น้ำ 1 ลิตร ทิ้งไว้ 5-6 ชม. ก็จะเกิดเป็นตุ่มงอก สีขาวขึ้นมาที่เมล็ดข้าวพอมองเห็น จากนั้นเอาขึ้นจากน้ำมาผึ่งให้แห้ง แล้วนำไปต้มใช้ไฟปานกลางให้เดือด แต่อย่าให้เดือดมาก เสร็จแล้วใช้ผ้าขาวบาง หรือกระชอนกรองน้ำออกมาดื่ม โรยเกลือป่นให้ออกเค็มเพิ่มรสชาติเล็กน้อย ก็จะเพิ่มความอร่อยนอกจากความหอมหวานที่มีอยู่ในน้ำข้าวกล้องงอกแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนี้ศูนย์วิจัยข้าวปทุมธานี ยังเปิดเผยสูตรบ๊ะจ่างข้าว กล้องงอก ถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยนางสุนันทา วงศ์ปิยนุช นักวิจัยพันธุ์ข้าว เจ้าของสูตรน้ำข้าวกล้องงอก และบ๊ะจ่างข้าวกล้องงอก เปิดเผยว่าตนได้ทำบ๊ะจ่างข้าวกล้องงอก และนางสำลี บุญญาวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาข้าว ได้นำขึ้น ทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อครั้งเสด็จฯ โรงเรียนนายร้อยจปร. จ.นครนายก เมื่อทรงชิม พระองค์มี รับสั่งว่าอร่อยมากเช่นกัน และไม่ทำให้อ้วนด้วย มีความหอมของข้าวเหนียวดำงอกด้วย ซึ่งสูตรเหมือนกับการทำบ๊ะจ่างทั่วไป คนที่ทำบ๊ะจ่างเป็นอยู่แล้ว นำไปประยุกต์ทำได้เลย โดยเพิ่มข้าวเหนียวดำงอกเข้าไปเพื่อให้ตัดกับข้าวเหนียวขาว สีจะได้ออกมาสวยงามน่ารับประทาน โดยสัดส่วนข้าวเหนียวขาวสองส่วน ข้าวเหนียวดำงอกหนึ่งส่วน แล้วก็ใส่เนื้อหมู ไข่แดง เม็ด แปะก๊วย ปรุงรสตามใจชอบ เท่านี้ก็ได้บ๊ะจ่างข้าวกล้อง งอกที่เป็นอาหารคาวทาน มีคุณค่าสารอาหารครบถ้วน แล้วไม่อ้วนด้วย เพราะข้าวกล้องจะอยู่ท้องอิ่มได้นาน.

ไม่มีความคิดเห็น:

เกี่ยวกับฉัน